![](https://www.tcc-rodban.com/wp-content/uploads/2023/05/ลมยางเติมเท่าไหร่-1024x1024.jpg)
ยาง คือสิ่งเดียวที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นถนนกับรถอันเป็นที่รักของเรา ไม่ว่าจะรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ยางเป็นองค์ประกอบสำคัญมากที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการยึดเกาะถนนของรถ ไม่ว่ารถของคุณจะมีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ดีแค่ไหน หากแต่ยางที่คุณใช้นั้นไม่เกาะถนน ก็จะทำให้การขับขี่ของคุณไม่ปลอดภัยได้ทันที
แล้วจะทำยังไงล่ะให้ยางที่เราใช้นั้นเกาะถนน ซื้อยางแพงๆเหรอ? คำตอบคือ “ใช่” ในส่วนหนึ่ง แน่นอนว่ายางราคาสูงๆ ย่อมมีศักยภาพในการยึดเกาะที่ดีกว่ายางราคาถูก ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของยางด้วย หากเป็นยางประเภทสปอร์ต เนื้อนิ่ม เกาะถนนแน่ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอายุการใช้งานที่สั้น ในทางกลับกัน ยางทัวริ่ง เนื้อยางแข็ง เน้นอายุการใช้งานที่ยาวนาน ก็ต้องแลกกับการยึดเกาะที่น้อยลงไป
![](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/542923_RO97lBiVL9PDnhTiEQE8t4.png)
แต่ในบทความนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องของ “ราคา” หรือ “เกรด” ของยาง เนื่องจากเป็นเรื่องของการใช้จ่าย ซึ่งแต่ละคนมีกำลังซื้อไม่เท่ากัน ยิ่งยางในสมัยนี้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ราคาเส้นนึงเฉียดหมื่นเข้าไปแล้ว หากพูดแค่ว่า ให้ซื้อยางแพงๆ ใส่ ใครๆ ก็รู้ว่ามันต้องดีกว่ายางถูกๆ แหละจริงไหม?
ฉะนั้นเราจะตัดเรื่องราคาออกไป แล้วมาดูอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ทุกคนอาจมองข้ามไป คือ “ลมยาง” ว่าเราควรใช้ความดันลมยางเท่าไหร่ ที่จะทำให้ยางของเรานั้นยึดเกาะถนนได้ดี และเหมาะสมกับการใช้งาน
โดยก่อนจะพูดถึงลมยาง เรามารู้จักกับชนิดของยางกันก่อน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
1.ยางแบบใช้ยางใน
2.ยางแบบไม่ต้องใช้ยางใน หรือ ยาง Tubeless
โดยในปัจจุบันยางที่ใช้ในรถบนถนนเกือบทั้งหมดจะอยู่ในกลุ่มที่ 2 และมีบางกลุ่มที่ยังใช้ยางแบบใช้ยางในอยู่ ซึ่งยาง 2 ชนิดนี้ก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกัน
![](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/082914_Xa4DNwFzmQgIpYrtfeUYZn.png)
โดยยางแบบต้องใช้ยางในนั้น ถูกใช้กันมาก่อนที่จะมียาง Tubeless โดยมีข้อดีคือราคาถูก น้ำหนักเบา สามารถเติมลมยางอ่อนมากๆ ได้ในสถานการณ์ที่ต้องการ ยางนอกก็ไม่หลุดไปไหน เนื่องจากมีตัวล็อคยางไว้กับขอบล้อและลมถูกเก็บไว้ในยางใน แต่มีข้อเสียคือ ด้วยความที่ใช้ยางใน ทำให้หากโดนตะปูหรือของมีคมแล้ว ยางในจะเกิดการระเบิด ทำให้ไม่สามารถขี่ต่อได้ และอาจทำให้เกิดความสูญเสียถึงชีวิตได้
![](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/157601_izSuuew31lcpKsUU94szSJ.png)
สำหรับยาง Tubeless จะค่อนข้างแตกต่างจากยางแบบใช้ยางใน ยางชนิดนี้มีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่ามาก มีน้ำหนักมากกว่า ขณะขับขี่เกิดความร้อนน้อยกว่า เนื่องจากไม่เกิดการเสียดสีระหว่างยางในกับยางนอก ทำให้โอกาสยางระเบิดมีน้อยกว่า และที่สำคัญคือในกรณีโดนตะปูหรือของมีคมแทงแล้วจะไม่เกิดการระเบิด ลมยางจะค่อยๆ รั่วออกช้าๆ สามารถเติมลมและประคองรถไปหาที่ปะยางได้ แต่ก็มีจุดด้อยคือไม่สามารถใช้ความดันลมยางอ่อนมากๆ ได้ เนื่องจากยางชนิดนี้ต้องอาศัยแรงดันลมภายในยางในการทำให้ขอบยางยึดติดอยู่กับขอบล้อ
![](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/208364_CepH9B4Bd66468ORtCPr8O.png)
ลมยางกับการใช้งาน
เกริ่นมาซะยาว มาเข้าเรื่องกันดีกว่า “ลมยาง เติมตามคู่มือดีที่สุดจริงหรือ? ถ้าไม่ เติมเท่าไหร่ดี?”
ลมยาง คือสิ่งที่สร้างแรงดันอยู่ภายในยาง ช่วยให้ยางคงรูป มีความแข็งแรง พอที่จะรองรับน้ำหนักรถและผู้ขับขี่ หลักการพื้นฐานของการเลือกใช้ความดันลมยางที่ง่ายที่สุดคือ “น้ำหนัก” เนื่องจากน้ำหนักที่มาก ทำให้โครงสร้างยางถูกกดทับมาก เราจึงต้องใช้แรงดันลมยางที่แข็ง เพื่อช่วยประคองโครงสร้างยางไว้ไม่ให้ถูกน้ำหนักกดทับจนเสียรูปทรง ซึ่งความดันลมยางปกติที่ใช้กันบนท้องถนนสำหรับรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ทั่วไปตามคู่มือแนะนำจะอยู่ที่ 28-40 PSI แต่ทั้งนี้ตัวเลขเหล่านี้นั้นไม่ได้ดีที่สุดเสมอไป มันสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์, การใช้งาน หรือ ความชอบส่วนบุคคลได้ เรามาดูกันว่าการใช้งานแบบไหน ควรใช้ลมยางเท่าไหร่บ้างกัน
![](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/825252_O0tbLGGf9GNAQYyEA4DlIH.png)
คู่มือแนะนำเติมลมยางแข็งขึ้น กรณีมีคนซ้อน
ใช้งานทั่วไปบนท้องถนน
สำหรับการใช้งานทั่วไปบนท้องถนนนั้น สามารถเติมตามคู่มือติดรถ หรือคำแนะนำของบริษัทยางได้เลย เนื่องจากตัวเลขตามคู่มือนี้เป็นตัวเลขที่วิศวกรนั้นคำนวณมาแล้วว่า เป็นแรงดันที่ปลอดภัย ครอบคลุมการใช้งานทั่วไป สามารถรองรับการบรรทุกน้ำหนัก(ที่ไม่มากจนเกินไป)ได้ ให้การเกาะถนนและความประหยัดน้ำมันที่พอดี แต่หากปกติแล้วผู้ใช้นั้นมีการบรรทุกน้ำหนักมาก หรือพาเพื่อนฝูงไปแฮ้งเอ๊าท์กันเต็มคันเป็นประจำ ก็สามารถเติมลมเพิ่มจากคู่มือสักเล็กน้อยได้ เพื่อไม่ให้แก้มยางถูกน้ำหนักกดทับมากจนเสียรูปทรง หรือสำหรับผู้ที่ปกติเดินทางคนเดียว และต้องการความนุ่มนวล ก็อาจเลือกปรับลดแรงดันลมยางจากคู่มือได้เช่นกัน
ออกทริป เดินทางไกลลล~
สำหรับการเดินทางไกลนั้น เราควรจะเติมลมยางแข็งกว่าปกติ สาเหตุเพราะปกติเวลารถวิ่ง โครงสร้างยางถูกแรงกระทำทำให้เกิดการขยับตัวไปมาก่อให้เกิดความร้อนสะสม โดยในกรณีเดินทางไกลจะเกิดความร้อนสะสมมากกว่าปกติ เพราะใช้ความเร็วที่สูงและการขับขี่เป็นระยะเวลานาน ซึ่งความร้อนสะสมนี้จะทำให้ยางหมดไว และมีโอกาสเกิดระเบิดขึ้นได้ เราจึงควรเติมลมยางแข็งกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อลดการขยับตัวของโครงสร้างยาง จะสามารถช่วยลดความร้อนสะสมได้ อีกทั้งลมยางที่แข็งจะทำให้หน้าสัมผัสของยางลดน้อยลง(คือเกาะถนนน้อยลงนั่นแหละ แต่ว่าการเดินทางไกลเราเน้นใช้ในทางตรง ไม่จำเป็นต้องใช้การยึดเกาะที่มากมาย) ซึ่งจะช่วยให้รถทำความเร็วได้ดีและประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย
![](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/428249_LpshYO6YjnDY2v5f50bmLC.png)
สายเรซซิ่ง ซัดทุกโค้ง
สำหรับไบค์เกอร์ที่เป็นสายสปอร์ต เจอโค้งเป็นไม่ได้ต้องเอาอะไรเช็ดพื้นสักหน่อย ควรจะเติมลมยางอ่อนกว่าปกติ เพื่อเพิ่มผิวสัมผัส (Contact patch) ของหน้ายาง ทำให้มีการยึดเกาะถนนที่ดียิ่งขึ้นทั้งในทางตรงและทางโค้ง แต่ข้อเสียของการใช้ลมยางอ่อนก็คือยางจะเกิดความร้อนสูง เนื่องจากโครงสร้างยางมีการขยับตัวมาก และทำให้ยางหมดไวกว่าปกติ
![](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/971939_iFwdRge3YarwHbYkJT87U4.png)
สายแบก อะไรหนักมาฝากที่พี่
สำหรับผู้ใช้รถในการบรรทุกของหนัก รวมถึงการมีคนซ้อน(ยิ่งถ้าคนขี่และคนซ้อนมีน้ำหนักตัวเยอะ) ควรจะเติมลมยางแข็งกว่าปกติ เพื่อช่วยพยุงโครงสร้างของยาง ไม่ให้ถูกน้ำหนักกดทับจนเสียรูปทรง การบรรทุกของหนักมากๆ และใช้ลมยางอ่อน จะทำให้โครงสร้างยางเสียหาย ความร้อนสะสมสูง และอาจเกิดยางระเบิดขึ้นได้
![](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/050552_uRF4JnT5bHEoAuvWABRnch.png)
สายฝุ่น ถนนดีๆข้าไม่ชอบ
สำหรับสายฝุ่น ที่ไม่ชอบขี่บนถนนธรรมดา ต้องบุกป่าฝ่าดงสิ ถึงจะมันส์ ควรเติมลมยางอ่อนกว่าปกติ ทำให้ยางสามารถให้ตัวได้มาก เพื่อใช้ในการยึดเกาะพื้นผิวที่ไม่เรียบหรือปีนป่ายอุปสรรคต่างๆ และช่วยลดแรงกระแทกจากการขับขี่ให้เบาลง ในกลุ่มรถวิบากล้อซี่ลวดที่ใส่ยางแบบใช้ยางในอาจปล่อยลมจนเหลือเพียงแค่ 12 PSI ก็มี แต่ในกลุ่มยาง Tubeless ไม่สามารถใช้ลมยางที่อ่อนมากได้ เพราะมีโอกาสที่ยางจะหลุดออกมาจากขอบล้อ ทั้งนี้ทั้งนั้นในการขับขี่ทางฝุ่นทั่วไป อาจขับขี่ได้โดยปล่อยลมยางเล็กน้อย แต่หากเจอทางลุยหนักๆโหดๆ ยาง Tubeless และล้อแม็กซ์ จะไม่มีความยืดหยุ่นมากพอที่จะรองรับแรงกระแทก อาจเกิดอาการล้อดุ้ง ล้อแตกได้
![](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/058599_yeCU9lh3htgGwCDSFQuegP.png)
หลักการง่ายๆ ในการปรับเพิ่ม-ลดลมยาง
ลมยางแข็ง :
– โครงสร้างยางคงรูป แข็งแรง สามารถบรรทุกของหนักได้
– การขับขี่กระด้างกว่าลมยางอ่อน
– ความร้อนสะสมน้อย
– ประหยัดน้ำมัน
– วิ่งทางตรงทำความเร็วได้ง่ายกว่า
– ยางหมดช้ากว่า
ลมยางอ่อน :
– โครงสร้างยางให้ตัวได้มากกว่า เพิ่มหน้าสัมผัสของยางกับพื้นถนน (เกาะถนนมากกว่า)
– นุ่มนวล
– ความร้อนสะสมมาก
– เปลืองน้ำมันมากกว่าลมยางแข็ง
– ยางหมดไวกว่า
สรุป
การเติมลมยางนั้นสามารถเติมตามคู่มือ หรือไม่ตามคู่มือก็ได้ ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวว่าต้องเติมเท่าไหร่จึงจะดีที่สุด ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งานของเรา แน่นอนว่าการเติมลมยางตามคู่มือนั้นจะถูกคำนวณมาให้ปลอดภัยและครอบคลุมการใช้งานทั่วไปมากที่สุด แต่หากเรามีจุดประสงค์ของการใช้งานที่ชัดเจน เราก็สามารถเลือกที่จะปรับแรงดันลมยางให้เหมาะสมกับสไตล์การขับขี่ของเราได้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและสมรรถนะการยึดเกาะที่ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
Tips & Tricks
– การวัดลมยางนั้นควรวัดในขณะที่ยางเย็นอยู่ หรือเมื่อรถจอดไว้ไม่ได้ใช้งาน เนื่องจากหากเราขับรถออกไปแล้ว ยางจะเกิดความร้อน ส่งผลให้แรงดันภายในยางเพิ่มขึ้น และอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการวัดลมยางได้
– ควรมีเครื่องวัดลมยางเป็นของตัวเอง เนื่องจากหัววัดตามปั๊มแต่ละที่อาจมีความคลาดเคลื่อน ไม่เท่ากัน
– ยางแบบ Tubeless ไม่ควรเติมลมยางอ่อนกว่า 20 PSI เนื่องจากมีโอกาสที่ยางจะหลุดออกจากขอบล้อได้
![](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/038427_sRRh9fIxgHKftCh0m9AQzN.png)
สุดท้ายนี้ก่อนจากกัน ขอฝากผู้อ่านทุกท่านไว้ว่า การเลือกแรงดันลมยางไม่มีถูกไม่มีผิด และควรลองด้วยตนเองจะดีกว่าการปรับใช้ตามคนอื่น เนื่องจากความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน ออกไปลองขับและปรับดูทีละ 1-2 ปอนด์ แล้วจะรู้ว่าแบบไหนที่เราชอบครับ
cr.https://www.autospinn.com/2019/08/tyre-pressure-guide-57835