![](http://p4.isanook.com/au/0/rp/r/w700h420/ya0xa0m1w0/aHR0cDovL3A0LmlzYW5vb2suY29tL2F1LzAvdWQvMTEvNTg1MjEvMTA0LmpwZw==.jpg)
ช่วงนี้ใกล้ฤดูฝนเข้ามาทุกทีแล้ว สิ่งที่เจ้าของรถจะต้องไม่ลืม คือ ความพร้อมของรถยนต์เพื่อขับขี่ท่ามกลางสายฝน เพราะถนนที่เปียกลื่นถือเป็นปัจจัยสำคัญของอุบัติเหตุช่วงหน้าฝน
![](http://p3.isanook.com/au/0/ud/11/58521/105.jpg)
1.ใบปัดน้ำฝน
ใบปัดน้ำฝนมีความสำคัญมาเป็นอันดับ 1 ในช่วงฤดูฝน เพราะทัศนวิสัยที่ย่ำแย่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้นหลายเท่าตัว หากพบว่าใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ปัดไม่เกลี้ยง ก็ควรรีบเปลี่ยนทันที ค่าใช้จ่ายก็เพียงไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึงหลักพันต้นๆเท่านั้น แถมยังเปลี่ยนเองได้ไม่ต้องง้อช่างอีกด้วย
![](http://p3.isanook.com/au/0/ud/11/58521/100.jpg)
2.ยางรถยนต์
ยางรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะยางที่ดอกโล้น จะทำให้ประสิทธิภาพในการรีดน้ำลดลง ส่งผลให้รถเสียหลักได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อเจอแอ่งน้ำในขณะที่ใช้ความเร็วสูง หากตรวจเช็คสภาพยางแล้วพบว่าดอกยางมีความลึกต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร ก็ควรรีบเปลี่ยนทันที ซึ่งปัจจุบันมีโปรโมชั่นยางรถยนต์มากมายให้ใช้บริการ ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่าย แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นยางที่มีราคาถูก แต่ก็ยังปลอดภัยกว่ายางที่ดอกโล้นเป็นไหนๆ
![](http://p3.isanook.com/au/0/ud/11/58521/102.jpg)
3.ระบบไฟส่องสว่าง
ควรเช็คระบบไฟส่องสว่างทุกจุดรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า, ไฟท้าย, ไฟเบรก, ไฟเลี้ยว, ไฟตัดหมอก ฯลฯ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามองเห็นถนนได้ดีขึ้นยามฝนตกเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นเราได้ง่าย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุลงได้อีกเยอะ และควรใช้สัญญาณไฟให้เหมาะสมทุกครั้งที่ฝนตกด้วย
![](http://p3.isanook.com/au/0/ud/11/58521/103.jpg)
4.น้ำฉีดกระจก/ไฟหน้า
อย่าลืมเช็คระดับน้ำหม้อพักสำหรับฉีดกระจกบานหน้าและหลัง (ถ้ามี) ให้เต็มอยู่เสมอ เพราะบางคนอาจไม่เคยเปิดใช้งานเลยในช่วงหน้าร้อน ทำให้ปล่อยปละละเลยในการเติมน้ำเป็นประจำ ซึ่งน้ำฉีดกระจกจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อเจอน้ำสกปรก, น้ำโคลน หรือฝ้าขึ้น เป็นต้น
![](http://p3.isanook.com/au/0/ud/11/58521/101.jpg)
5.เช็คระบบเบรกและ ABS
ระบบเบรกถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะการเบรกแบบฉุกเฉินจะใช้ระยะเบรกบนถนนเปียกมากกว่าถนนแห้ง การดูแลระบบเบรกให้สมบูรณ์จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุลงได้ หากเริ่มมีเสียงดัง ‘เอี๊ยด’ ออกมาทุกครั้งที่เหยียบเบรกแล้วล่ะก็ แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนผ้าเบรกได้แล้ว
อีกทั้งยังควรเช็คระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS – Anti-lock Brake System) แม้จะไม่มีสัญญาณเตือนบนหน้าปัดก็ตาม โดยการหาที่โล่งๆ ใช้ความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. ลองเหยียบเบรกแบบเต็มกำลัง หากมีเสียงครืดๆ เป็นจังหวะ และรู้สึกถึงอาการสั่นที่แป้นเบรก แสดงว่าระบบ ABS ยังคงทำงานอย่างสมบูรณ์ แต่ถ้าเหยียบแล้วล้อเกิดล็อคตายจนทำให้มีเสียงยางบดถนนดัง ‘เอี๊ยด’ ยาวๆ แสดงว่าระบบเอบีเอสมีปัญหาแล้ว
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ควรเช็คเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนก็ตาม แต่เมื่อเข้าฤดูฝนก็ควรใส่ใจตรวจเช็คเป็นพิเศษ หากมีชิ้นส่วนใดต้องเปลี่ยนก็ควรรีบเปลี่ยนทันที เพราะคุ้มค่ากว่าการจ่ายค่าซ่อมรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริงๆครับ
![](http://p3.isanook.com/au/0/uc/1/9052/logo_support_100x35.jpg)
สนับสนุนเนื้อหา
cr. http://auto.sanook.com/58521